ผู้หญิงกับผู้ชายนอกจากจะแตกต่างกันในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นอย่างเด่นชัดแล้วการแสดงออกและความนึกคิดก็ยังคงมีความต่างกันอยู่
มีงานวิจัยน่าสนใจมากมายเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างหญิงกับชาย ในรายงานเรื่อง "มหัศจรรย์แห่งสมอง"
นิตยสาร "ซีเคร็ต" ฉบับล่าสุด อิสระพร บวรเกิด
ตั้งประเด็นหนึ่งน่าสนใจว่า สงครามย่อยๆ
ระหว่างเพศนั้นมีชนวนเหตุมาจากสมองทั้งสองซีกของคุณเองพร้อมอ้างถึงงานวิจัยของ
ศ.เอเดรียน เฟิร์นแฮม ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาจาก "ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ
ลอนดอน" อธิบายเรื่องนี้ว่า สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงและผู้ชายต่างกันมากที่สุดคือ
วิธีคิด ผู้ชายส่วนใหญ่ปราดเปรื่องเรื่องมิติสัมพันธ์ หนุ่มๆ
จึงเชี่ยวชาญการดูแผนที่
และสามารถฝ่าฝูงชนจากอัฒจันทร์ไปซื้อเครื่องดื่มแล้วกลับมานั่งที่เดิมได้อย่างสบายๆ
ขณะที่ฝ่ายหญิงหากเป็นคนลงไปซื้อ รับรองโทร.ตามหากันจ้าละหวั่น เพราะแม่คุณหลง
กลับที่นั่งไม่ถูก ผู้หญิงส่วนมากลึกซึ้งเรื่องอารมณ์และความรู้สึก
ซึ่งเป็นความถนัดหลักของสมองซีกขวา ทำให้พวกเธอสะเทือนใจง่าย
ขณะที่ผู้ชายเวลาถูกแทงข้างหลังหรือหักหลัง ก็ยังทนกัดฟัน
"ลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้" ได้อย่างหน้าตาเฉย
นอกจากนี้ นักจิตวิทยาคลินิก ไมเคิล
จี.คอนเนอร์ ยังพบข้อสรุปว่า
ผู้หญิงมีปริมาณเส้นประสาทที่เชื่อมระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวามากกว่าผู้ชายถึง 4
เท่านั่นหมายความว่า
สมองทั้งสองซีกของผู้หญิงนั้นทำงานสัมพันธ์กันได้ดีกว่าผู้ชายข้อสรุปของคอนเนอร์คงทำให้หลายคนหายสงสัยว่า
เหตุใดผู้ชายจึงไม่ชอบให้ใครชวนคุยระหว่างขับรถหรือดูฟุตบอลเกมโปรด
แต่ผู้หญิงกลับสามารถคุยโทรศัพท์ และปัดมาสคาราไปด้วยอย่างสบายๆ
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บ่อยครั้งผู้ชายมักจะพูดโพล่งออกไปตรงๆ โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ
คือคิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้นส่วนผู้หญิงปากกับใจมักไม่ค่อยตรงกัน พูดอย่างหนึ่ง
แต่ต้องการให้ผู้ฟังเข้าใจอีกอย่าง เช่น การบอกแฟนหนุ่มว่า
"ทำอะไรไม่ถูก" นั้นแท้จริงแล้วเธอกำลังพยายามจะบอกว่า
"คุณช่วยมาหาฉันเดี๋ยวนี้ได้ไหม" ต่างหาก
จะเห็นว่าภาษาที่ทั้งสองฝ่ายใช้นั้น แม้จะเป็นภาษาเดียวกัน แต่กลับมีความหมายต่างกันอย่างสิ้นเชิง
คำกล่าวของ ดร.จอห์น เกรย์ นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญเรื่องความแตกต่างระหว่างเพศ
ที่ว่า "ผู้ชายมาจากดาวอังคาร ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์"
จึงกลายเป็นประโยคเด็ดเป็นยอมรับกันทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้
ที่มา : blog.goethe.de/sciencefilmfestival/index.php?/archives/105-unknown.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น